|
Post by Amber Ann, MD on Jul 24, 2017 3:09:54 GMT 7
เมื่ออีกฝ่ายรับคำเป็นมั่นเหมาะ แต่จะแผ่วเบาไปบ้าง แต่สำหรับหมออย่างพวกเขาก็ถือว่าโอเคแล้ว ไซม่อนปล่อยมือจากไหล่รัสเซล ก่อนร่างเล็กของแอมเบอร์จะช่วยดึงร่างเล็กบางให้ลุกขึ้น ใช้ผ้าเช็ดหน้าของไซม่อนนั่นแหละเช็ดคราบน้ำตาออกให้ดีๆ "อ่ะ หล่อเหมือนเดิมแล้วเนอะ" เธอคลี่ยิ้มละมุนที่หาได้ยากยิ่งในยามปกติ "ตอนนี้ก็กลับไปพักผ่อนเถอะ อย่าหักโหมทำอะไรมากนะคะ เข้าใจนะ"คุณหมอคนสวยแสร้งทำเสียงดุในประโยคสุดท้าย ก่อนส่งยิ้มให้อีกครั้งแล้วกลับไปนั่งทำงานที่ค้างคาต่อที่โต๊ะ เมื่อไซม่อนรับช่วงต่อพาอีกฝ่ายออกไปส่งหน้าคลินิก "กลับดีๆ.. ทำตัวดีๆ จะได้หายไวๆ"น้ำเสียงเรียบนิ่งแบบที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดไปงั้นหรือหวังดีจริงๆกันแน่ แต่คงหวังดีแหละ ก็ไซม่อนเป็นหมอนี่ จริงไหม?
💝 LOVE POINT 💝
Amber Ann +7 Simon Marshal +2
|
|
Russell Lee
New Farmer
ฤดูร้อนมันต้องเล่นน้ำสิครับ!
Posts: 362
|
Post by Russell Lee on Jul 24, 2017 3:18:26 GMT 7
คุณแอมเบอร์ใช้ผ้าเช็ดหน้า ลูบบนใบหน้าของเขา คล้ายต้องการลบคราบน้ำตานั่นออกไป พร้อมกับมอบรอยยิ้มที่สามารถผ่อนคลายความตึงเครียดลงได้
"อ่ะ หล่อเหมือนเดิมแล้วเนอะ" "ตอนนี้ก็กลับไปพักผ่อนเถอะ อย่าหักโหมทำอะไรมากนะคะ เข้าใจนะ"
เมื่อพูดจบ คุณแอมเบอร์ก็กลับไปทำงานโดยที่คุณไซม่อนได้ออกมาส่งที่หน้าคลินิก เขามองหน้าอีกฝ่ายครู่หนึ่ง เพราะไม่รู้ว่าควรตอบสนองยังไง บางทีรัสเซลก็รู้สึกเสียมารยาทที่เกร็งเกินไป ยามอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย
"กลับดีๆ.. ทำตัวดีๆ จะได้หายไวๆ"
คำพูดที่เน้นย้ำๆหลายคำ ชวนให้รู้สึกถึงความใส่ใจบางอย่าง อาจเป็นเขาที่คิดไปเอง แต่คงจะสรุปได้ว่า อีกฝ่ายคงหวังดีกับเขาจริง
"ขอตัวก่อนนะครับ" เขาโค้งให้อีกฝ่ายหนึ่งครั้ง "ราตรีสวัสดิ์ครับ"
เมื่อกล่าวลาเสร็จ ร่างเล็กจึงค่อยๆเดินห่างออกไป ตามเส้นทางซึ่งตรงกลับบ้านของตนเอง
|
|
|
Post by Aiden on Jul 28, 2017 21:00:06 GMT 7
"คุณหมอครับ!"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมกับประตูคลินิกถูกเปิดออกอย่างแรง เรียกให้แพทย์สาวประจำคลินิกต้องรีบวางแฟ้มเอกสารในมือลง ยิ่งเมื่อเห็นชายหนุ่มที่น้อยครั้งนักจะพบเห็นได้ในเมือง หอบหิ้วเอาร่างเล็กหนึ่งในคนไข้ของไซม่อนเข้ามาด้วย หญิงสาวจึงผุดตัวขึ้นจากเก้าอี้ ตรงปรี่เข้าหาทั้งคู่ทันที "ตายจริง เกิดอะไรขึ้นน่ะไอเด็น""ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นอีกทีก็ตอนสลบอยู่ในป่า" ไอเด็นตอบสั้นๆ ยังไม่ได้เริ่มเล่าถึงบรรยากาศแปลกๆที่เกิดขึ้นในป่า "แต่ภายนอกไม่มีบาดแผลอะไร""โอเค ถ้างั้นวางคุณรัสเซลไว้ที่เตียงก่อน ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเองค่ะ"ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วรีบขยับตัวตามคำสั่ง เขาเชื่อในฝีมือของคุณหมอแอมเบอร์ แต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้อยู่ดี ยิ่งภายนอกไม่มีบาดแผลแบบนี้ ก็น่าหวั่นใจว่าจะมีผลกระทบจากภายใน "ออกไปรอด้านนอกก่อนค่ะ"เสียงหวานกล่าวแก่ชายหนุ่มเมื่อเห็นว่าร่างสูงยังไม่ยอมขยับเท้าออกไปจากห้อง ไอเด็นจำต้องละสายตาออกจากร่างบนเตียง "ครับ" ก่อนจะโค้งศีรษะให้แล้วหันหลังเดินออกจากห้องตรวจไป
|
|
|
Post by Amber Ann, MD on Jul 28, 2017 21:58:23 GMT 7
ร่างเล็กของคุณหมอคนสวยขยับเข้าชิดเตียงที่รัสเซลนอนอยู่ ตรวจวัดสัญญาณชีพของคนป่วย พบว่าความดันโลหิตต่ำ คุณหมอสาวหันไปจัดท่าทางการนอนของคนไข้ให้อยู่ในท่าที่เหมาะสม ปลดเสื้อผ้าให้หลวมที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะลงมือตบเบาๆ ที่ไหล่ของรัสเซล "รัสเซลคะ รัสเซล!" น้ำเสียงหวานเรียกดังกว่าปกติ มองปฏิกิริยาตอบรับของคนตัวเล็กที่นิ่วหน้าเมื่อถูกรบกวน เธอก็เบาใจ แอมเบอร์ผละออกจากเตียงไปที่ประตูห้องตรวจ เปิดออกเพื่อพูดคุยกับไอเด็น "อาการของรัสเซลดีขึ้นแล้วค่ะ ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้ว ฉันตรวจร่างกายเขาแล้ว มีแค่แผลเดิมที่เข่า ที่บอกว่าตกจากรั้วมาน่ะค่ะ ส่วนตอนนี้เขาแค่เป็นลมไปเท่านั้น ให้พักสักหน่อยเดี๋ยวก็ฟื้นแล้วล่ะค่ะ ไอเด็นกลับได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันดูแลต่อเอง เดี๋ยวสักพักเขาก็ฟื้นแล้วค่ะ""ครับ...ขอบคุณมากครับ" ใจจริงเขาอยากอยู่ให้เห็นกับตา แต่เพราะสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในป่าทำให้ชายหนุ่มรู้สึกร้อนใจเกินจะติดอยู่ที่นี่ได้นาน "ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปจัดการธุระก่อนนะครับ" เขาว่าแล้วโค้งศีรษะให้แอมเบอร์อีกครั้ง แล้วรีบเดินออกจากคลินิกไป คุณหมอสาวเดินกลับเข้าไปภายในห้องตรวจอีกครั้งก็พบว่ารัสเซลฟื้นขึ้นมาแล้ว "อ้าว รัสเซลดีขึ้นแล้วใช่ไหมคะ แค่เป็นลมน่ะ ไม่ได้อันตรายร้ายแรงอะไร คราวหลังก็อย่าโหมทำงานหนักละกันค่ะ พักผ่อนให้เพียงพอด้วย เดี๋ยวหมอจะตรวจคนไข้คนอื่นต่อเนาะ รัสเซลกลับบ้านได้เลยนะคะ" ผู้เล่น รัสเซล ฟื้นจากการหมดสติชั่วคราว สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
|
|
Russell Lee
New Farmer
ฤดูร้อนมันต้องเล่นน้ำสิครับ!
Posts: 362
|
Post by Russell Lee on Jul 28, 2017 22:28:49 GMT 7
"อ้าว รัสเซลดีขึ้นแล้วใช่ไหมคะ แค่เป็นลมน่ะ ไม่ได้อันตรายร้ายแรงอะไร คราวหลังก็อย่าโหมทำงานหนักละกันค่ะ พักผ่อนให้เพียงพอด้วย เดี๋ยวหมอจะตรวจคนไข้คนอื่นต่อเนาะ รัสเซลกลับบ้านได้เลยนะคะ"
เขาได้สติมาอีกครั้งก็พบว่าอยู่บนเตียง แถมยังมีคุณหมอแอมเบอร์อยู่ด้วย มือเล็กกุมที่ศีรษะซึ่งมีอาการปวดจี๊ดบางอย่าง
ไม่ไหว.. เกิดอะไรขึ้น
ภาพของกระต่ายที่ดูไม่ต่างจากทั่วไปปรากฎขึ้นมาในหัวของเขา มันมาเป็นฉากๆก่อนที่ตัวของเขาจะวูบไป ดูเหมือนจะออกมาให้เห็นจริงๆ แต่ดูเมหือนจะมีผลกระทบบางอย่างเกิดขึ้นตามมาด้วย
มันเป็นความผิดของเขา รัสเซล นายมันแค่ขยะจริงๆ
"ขอบคุณครับคุณหมอ"
เขากล่าวขอบคุณอีกฝ่ายก่อนจะออกไปจากที่ห้องตรวจ
|
|
Russell Lee
New Farmer
ฤดูร้อนมันต้องเล่นน้ำสิครับ!
Posts: 362
|
Post by Russell Lee on Jul 29, 2017 10:49:46 GMT 7
To Simon @ห้องตรวจ
รัสเซลสวมเสื้อผ้าตามปกติของตัวเอง ก่อนจะค่อยๆเข้ามาที่คลินิก คุณหมอไซม่อนไม่ได้นัดเวลาเอาไว้ เขาเลยไม่รู้ว่าควรเข้าไปตอนไหน แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครรออยู่ด้านนอก เขาจึงคิดว่าในห้องตรวจน่าจะว่างแล้ว รัสเซลจึงค่อยๆเปิดประตูห้องตรวจ
"ขออนุญาติครับ.."
|
|
|
Post by Simon M. on Jul 29, 2017 21:48:16 GMT 7
To. Russell
ไซม่อนกำลังพลิกบัตรประจำตัวผู้ป่วยนอกของคนไข้พิเศษที่เขานัดมาดูอาการเป็นวันแรก
หลังจากที่จ่ายยาไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ไม่นานเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงขออนุญาตเบาๆ ตามมา เขาหันไปมองด้วยสีหน้านิ่งเรียบเหมือนทุกครั้ง เมื่อเห็นว่าเป็นคนที่นัดไว้ไซม่อนก็พยักหน้าเบาๆ
“เข้ามาก่อนสิ”
. . .
“หกวันที่ผ่านมา เป็นยังไงบ้าง?”
|
|
Russell Lee
New Farmer
ฤดูร้อนมันต้องเล่นน้ำสิครับ!
Posts: 362
|
Post by Russell Lee on Jul 29, 2017 22:40:48 GMT 7
เมื่อได้ยินคำอนุญาติ เขาจึงเดินเข้าไปด้านใน รัสเซลนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับอีกฝ่าย รู้สึกประหม่าอยู่เหมือนกัน เมื่อต้องอยู่ตามลำพังแบบนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขารู้สึกอึดอัดกับอีกฝ่าย
"มันสังเกตเห็นได้ชัดเลยล่ะครับ.. จากที่ผมจิตตกบ่อยๆ มันทำให้ลดน้อยลง บางวันผมไม่คิดเรื่องติดลบเลยด้วยซ้ำ"
รัสเซลเอ่ยตอบเสียงเรียบ สีหน้าไม่ได้บ่งบอกความรุ้สึกใดเป็นพิเศษ เพียงแต่ดวงตายังมีความลำบากใจอยู่บ้าง
"แต่เมื่อวานเกิดเรื่องขึ้นโดยมีผมเป็นต้นเหตุ มันเหมือนระเบิดครับ ผมรู้สึกเหมือนถูกกดดันยิ่งกว่าครั้งไหน ถึงอย่างนั่น พอได้พูดสิ่งที่คิด และมีคนคอยให้กำลังใจ ตอนนี้ความรู้สึกของผมมันกลายเป็นเส้นตรงแล้วครับ"
มันราบเรียบ เขาเหมือนคนที่บวชไปแล้วด้วยซ้ำ
พอพูดประโยคนั่นเสร็จเขาก็ยิ้มขำอย่างเขินๆ เมื่อรู้สึกตัวว่าใช้คำพูดที่ดูไม่เป็นตัวเองเลย
|
|
|
Post by Simon M. on Jul 29, 2017 23:09:45 GMT 7
เขาสังเกตทั้งสีหน้าและท่าทางของอีกฝ่ายในระหว่างที่ฟังคำตอบ และจดบันทึกลงไป (ตามคำสั่งของแอมเบอร์)
“แสดงว่ายาได้ผล” เขาพึมพำไม่เชิงเป็นคำถาม ดูเหมือนคุยกับตัวเองมากกว่า
สีหน้าของไซม่อนราบเรียบขณะที่ฟังรัสเซลพูดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน เป็นเรื่องจริงที่เขารู้สึกหัวเสียอยู่บ้าง แต่คงเป็นการดีกว่าถ้าจะไม่พูดอะไรออกไปตอนนี้
.
.
.
“นอกจากความรู้สึกแบบนี้ ช่วงที่ผ่านมา...คุณมีอะไรอยากเล่าให้ผมฟังบ้างไหม?”
|
|
Russell Lee
New Farmer
ฤดูร้อนมันต้องเล่นน้ำสิครับ!
Posts: 362
|
Post by Russell Lee on Jul 29, 2017 23:18:28 GMT 7
ระหว่างที่อีกฝ่ายจดบันทึก เขาแค่ชำเลืองมองอย่างกล้าๆกลัวๆเท่านั้น ทำไมบรรยากาศรอบตัวมันถึงได้อึดอัดนักนะ รัสเซลพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อให้ตนเองรู้สึกดี
"หมายถึง... คุณหมอหมายถึงเรื่องอาการของผมรึเปล่าครับ?"
เขาเอ่ยถามอย่างมั่นใจนัก เพราะเรื่องที่อีกฝ่ายถาม มันคือสิ่งที่อยากเล่า ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าควรพูดอะไรออกไป อาจหมายถึงสิ่งที่ประทับใจ? หรือว่าหมายถึงสิ่งที่ทำให้เขาอยากพูดให้คนฟัง? หรือจะหมายถึงเรื่องเกี่ยวกับอาการความรู้สึก รัสเซลตีความคำพูดนั้นออกไปหลากหลายจนหัวหมุนไปหมด
|
|
|
Post by Simon M. on Jul 29, 2017 23:36:34 GMT 7
. . .
“อยากเล่าอะไรก็เล่า เล่าในสิ่งที่คุณสบายใจ มันอาจเป็นเรื่องทั่วไป เรื่องคนอื่น เรื่องไร้สาระ หรือเรื่องที่เกี่ยวกับคุณเอง”
วันนี้ไซม่อนเลือกใช้น้ำเสียงนิ่งเรียบ ไม่แข็งกร้าวเหมือนเคย เขาพยายามทำตัวให้สบายๆ และใจเย็นที่สุดตามที่แอมเบอร์กำชับไว้เพื่อให้คนไข้พิเศษของพวกเขาไม่รู้สึกเกร็งมากนัก
“อย่าเพิ่งคิดว่าคุณอยู่คนเดียว ตอนนี้ยังมีผมที่รับฟังคุณอยู่ และการที่วันนี้คุณมาหาผม ผมถือว่าคุณเลือกที่จะร่วมมือให้การรักษากับหมอ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมคงจบมันคนเดียวไม่ได้ ยังไงมันก็ขึ้นอยู่กับคุณ”
|
|
Russell Lee
New Farmer
ฤดูร้อนมันต้องเล่นน้ำสิครับ!
Posts: 362
|
Post by Russell Lee on Jul 29, 2017 23:49:58 GMT 7
เมื่อได้ยินประโยคนั้น เขาก็นิ่งไปทันที สิ่งที่อยากจะพูดงั้นเหรอ.. มันเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา และเขาควรจะร่วมมือกับอีกฝ่าย...
มือของเขาวางลงที่ตักอีกครั้ง นิ้วมือเริ่มแตะสัมผัสกัน ขณะที่กำลังคิดหาเรื่องที่อยากจะเล่า มันคล้ายเป็นสิ่งที่เคยชินไปเสียแล้ว
"ผม..." เขาอ้าปากเปล่งเสียงออกมาเพียงหนึ่งคำก่อนจะเงียบลง "เมื่อวาน ตอนที่เข้าไปในบาร์ ผมพยายามสงบอารมณ์ของตัวเองให้มากที่สุด จะไม่แสดงสีหน้า ไม่พูดด้วยท่าทางโอนอ่อนหรือดูพึ่งพาไม่ได้ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าผมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ดูเหมือนผมจะสะกดอารมณ์ไม่ได้เลย เรื่องเมื่อวานเหมือนระเบิดที่หย่อนลงหลุมของผม ผมรู้สึกเหมือนรอบตัวเหลือเพียงจักรวาลที่มืดสนิท และมีผมเพียงคนเดียวยืนอยู่ตรงนั้น พอมีผู้คนยื่นมือเข้ามา ผมกลับปรารถนาที่จะปัดออกไป ผมหวาดกลัว.... ผมทำผิด ผมอยากให้เขาเกลียดผม อย่างที่ผมคิดเอาไว้ แต่กลับเจอถ้อยคำอ่อนโยนและการให้กำลังใจ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด เหมือนตัวเองเป็นของสกปรก เป็นสิ่งที่ไม่มีค่าคู่ควรจะยืนข้างพวกเขา... จนผมอยากที่จะตายและหายไปจากตรงนั้น"
เขาทิ้งคำพูดเอาไว้เท่านั้น คล้ายจะจบแค่ตรงนั้น แต่กลับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"ผมได้แค่โทษตัวเอง อย่างไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จนสุดท้ายมันก็เหลือแต่ความสงบ วันนี้ผมใจเย็นลงมากและพูดคุยด้วยเหตุผลได้มากกว่าเมื่อวาน ผมจึงพูดสิ่งที่ต้องการออกไปได้ พอทำแบบนั้นแล้วมันสบายใจขึ้นมามากเลยครับ.. อย่างน้อยผมก็รู้สิ่งที่เป็นจริง และเลิกคิดไปเองเสียที"
เขาพูดทั้งหมดด้วยคำพูดเรียบๆ มีบางช่วงที่สะดุดบ้างเพราะไม่รู้จะใช้คำพูดอธิบายออกมายังไง
แต่พอพูดจนจบเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ ราวกลับกำลังหัวเราะให้ตัวเอง
"หน้าผมเหมือนคนที่อยากจะฆ่าใครรึเปล่าครับ?"
รัสเซลถามด้วยคำพูดคล้ายติดตลก แต่ประกายในแววตากลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
|
|
|
Post by Simon M. on Jul 30, 2017 3:43:03 GMT 7
To. Russell
เขาก้มลงจดบันทึกทุกคำพูดของรัสเซลลงไปในสมุด รวมทั้งสีหน้าและท่าทาง มีบางครั้งที่เขาขมวดคิ้วนิดๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเช่นเดิม
ไซม่อนรอจนกระทั่งอีกฝ่ายพูดออกมาจนประโยคสุดท้าย ชายหนุ่มจึงเริ่มเปิดปากเอ่ยตามที่เขาจับสังเกตได้
“ผมไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่บาร์บ้าง แต่เท่าที่ฟังสิ่งที่คุณพูดออกมา ผมเห็นแต่การดูถูกตัวเอง เลยไม่แปลกใจที่คุณจะปฏิเสธความช่วยเหลือของคนเหล่านั้น แม้ว่าสิ่งที่พวกเขาหยิบยื่นมาให้จะเป็นความปรารถนาดีต่อตัวคุณก็ตาม”
เขาเว้นจังหวะพูดไปครู่หนึ่ง ก้มลงมองสมุดจดอีกครั้งก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดต่อ
“บางครั้ง คุณก็ต้องแยกให้ออกด้วยว่า สิ่งที่คุณคิดเกี่ยวกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คุณบอกว่าโดนเกลียดหรืออะไรก็ตาม เขาเป็นคนพูดมันออกมาจริงๆ หรือเป็นแค่สิ่งที่คุณคิดไปเอง? แต่.. ดูเหมือนคุณก็รู้ ว่าถ้าพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาตรงๆ ไม่คิดไปเอง หรือคิดแทนคนอื่น คุณจะสบายใจมากกว่านี้ ?
.
.
.
ปัญหามันดูเหมือนจะมีทางออกแล้ว ไอ้หลุมนั่นของคุณน่ะ อยู่ที่ว่าจะยอมปีนขึ้นมา หรือจะอยู่ที่ก้นหลุมต่อไป บางทีอาจจะมีคนยื่นเชือกให้คุณแล้วด้วยซ้ำ” เขาส่งเสียง ‘เหอะ’ ในลำคอออกมา แค่นยิ้ม “แต่ก็อย่างที่คุณบอก ว่าคุณปฏิเสธมันไปเอง”
“ส่วนประเด็นสุดท้าย ผมไม่รู้หรอกนะว่าพูดเล่นหรือพูดจริง แต่ถ้านั่นมันเป็นสิ่งที่กลั่นกรองออกมาดีจากในหัวของคุณแล้ว.. อืม ถ้าจำไม่ผิดแอมน่าจะมีเบอร์โทรของโรงพยาบาลในเมืองอยู่นะ เพราะถ้ามากกว่านี้ มันจะเกินขอบเขตวิชาชีพของทั้งผมและแอมมากเกินไป พวกเรามาที่นี่เพื่อรักษาโรคทั่วไป ไม่ใช่โรคที่เกี่ยวกับปัญหาทางจิต จรรยาบรรณก็เป็นเรื่องที่ต้องรักษาไว้เหมือนกัน”
|
|
Russell Lee
New Farmer
ฤดูร้อนมันต้องเล่นน้ำสิครับ!
Posts: 362
|
Post by Russell Lee on Jul 30, 2017 13:51:06 GMT 7
ประโยคสุดท้าย เขาตั้งใจจะแแค่ทำให้บรรยากาศดีขึ้น แต่ดูเหมือนมันจะไม่คลายความอึดอัดเลยสักนิด รัสเซลจึงหุบยิ้มและตั้งใจที่จะพูดอย่างจริงจังบ้าง
"เรื่องสุดท้ายผมแค่สงสัยน่ะ เพราะผมเข้าไปในป่าพร้อมมีด บางทีกะตุ่ยอาจจะคิดว่าผมต้องการที่จะฆ่าเขา ผมเลยอยากถามคุณว่าผมดูเหมือนคนที่จะทำแบบนั้นจริงๆเหรอ?"
ประโยคอื่นที่อีกฝ่ายกล่าวออกมาก่อนหน้านี้ เขาเพียงแค่รับฟัง โดยไม่ได้เอ่ยขัดอะไร และเมื่อต้องพูดถึงประเด็นนั้น รัสเซลก็เงียบไปสักพักใหญ่
"ใช่ว่าผมไม่รู้ แต่ถ้าเป็นคุณหมอ คุณหมอจะทำยังไงเหรอครับ?"
มือเล็กกุมที่ศีรษะ กดนิ้วนวดที่ขมับ แล้วจึงเอ่ยต่อ
"ผมรู้ว่าพวกเขาหวังดี ผมไม่อยากคิดว่าตัวเองจะถูกเกลียด แต่ถ้ามันมีคำพูดบางอย่างที่อยู่ในหัว ในใจที่ย้ำคุณซ้ำๆ บอกว่าเรามันแย่ อย่าให้พวกเขามายุ่งกับเรา ผมอยากเอาชนะมัน แต่ทำไมไม่รู้ ผมทำมันไม่ได้"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก แต่สายตาไม่ได้มองไปยังคู่สนทนา ราวกลับเป็นการพูดใส่ตัวเองมากกว่า
"แต่ผมรู้ว่ามันทำให้คนรอบข้างเขารู้สึกแย่ ตอนนี้ผมตัดสินใจแล้วว่า ต่อให้ผมคิดยังไง หรือเป็นยังไง ผมจะไม่แสดงมันออกมาอีกแล้ว"
ดวงตาของเขากลอกไปซ้ายไปขวาสลับกันก่อนจะหยุดที่คู่สนทนา พร้อมกับส่งยิ้มจางๆให้
|
|
|
Post by Simon M. on Jul 30, 2017 15:37:22 GMT 7
ท่าทางสับสนในตัวเองอย่างหนักทำให้ไซม่อนขมวดคิ้วพิจารณาอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
เขากำลังคิดหาทางออกช่วยคนตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่รับรู้ ไซม่อนพยักหน้าเมื่อฟังรัสเซลพูดจบ
ร่างสูงโปร่งของหมอหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ ไม่อธิบายอะไรตามสไตล์ของคนไม่ช่างพูด เขาเดินหายออกไปจากห้องตรวจ แต่ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมถุงใส่ยาจำนวนหนึ่ง
ชายหนุ่มวางมันลงข้างๆ บนโต๊ะก่อนจะนั่งลง และไม่ได้แตะต้องถุงยานั่นอีก สบตาอย่างจริงจังกับคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“คำถามแรกของคุณ ผมคงให้คำตอบไม่ได้ เพราะตัวผมเองก็ยังไม่เข้าใจ ‘สิ่งนั้น’ ที่ทำร้ายคุณในป่าเช่นกัน” . . . “แต่ถ้าถามว่าถ้าเป็นผม จะทำยังไง” ไซม่อนหยุดคิดไปครู่หนึ่ง “ผมคงไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไงเกี่ยวกับตัวเอง เพราะนั่นคือผม สิ่งที่ผมเป็น ในเมื่อไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้ ผมจึงกำหนดทุกอย่างด้วยตัวเอง” . . .
“ดูเหมือนว่าคุณจะดีขึ้นแค่ช่วงเวลาหนึ่ง ยาที่ผมจ่ายไปครั้งแรกควรจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นกว่านี้ คุณรัสเซล..” เขาประสานมือไว้บนโต๊ะ โน้มตัวเล็กน้อยเหมือนเวลาที่ต้องการพูดอะไรสักอย่างที่จริงจัง ดวงตาคมกริบฉายแววจริงจัง “...การรักษานี้จะไม่ประสบผลสำเร็จถ้าคนไข้มีอาการต่อต้าน ผมอยากจะถามคุณ กรุณาอย่าตีความหมายของคำพูดผมไปในทิศทางอื่น ‘คุณอยากที่จะหายจริงๆ หรือเปล่า?’ เพราะผมเองก็กำลังช่วยเหลือคุณอย่างสุดความสามารถ ‘มีใครที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่า?’ คำตอบของคำถามเหล่านี้ คุณไม่จำเป็นต้องเกรงใจผม อย่าลืมว่าผมกำลังเสนอตัวรับฟังคุณอยู่ และไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาตัดสินคุณ ที่นี่มีแค่คุณกับผม และสิ่งที่เราคุยกันเป็นความลับของหมอกับคนไข้เท่านั้น”
|
|